3 ทริคง่ายๆลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ผล

การลดน้ำหนักในสมัยปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่หลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจและความสำคัญกันเป็นอย่างมาก

ทริคง่ายๆลดน้ำหนัก เพราะแน่นอนว่าการสร้างรูปร่างที่ดีหรือการสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงให้แก่ตนเองนั้นจะทำให้ตนเองมีความมั่นใจและมีบุคลิกภาพในการใช้ชีวิตได้มากยิ่งขึ้น จึงทำให้การลดน้ำหนักเป็น หนึ่ง ในสิ่งสำคัญที่ทำให้หลายคนนั้นหันมาให้ความสำคัญ

ซึ่งแน่นอนว่าในสมัยปัจจุบันนี้และหลายคนมักที่จะใช้ชีวิตกันด้วยความเร่งรีบและทุ่มเทเวลาร่างกายตนเองไปกับการทำงานซะส่วนใหญ่ จึงทำให้บางคนนั้นไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของการออกกำลังกายการรับประทานอาหารจนบางครั้งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

โดยไม่รู้ตัวหรืออาจทำให้ร่างกายได้รับความเสี่ยงหรือผลกระทบโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้น ขอบอกเลยว่าการที่เราหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้การดำเนินชีวิตของเรามีประสิทธิภาพ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดน้ำหนักเพื่อสร้างรูปร่างที่ดีให้แก่ตนเอง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายๆคนในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมองหาวิธีที่จะทำให้ตนเองนั้นลดน้ำหนักให้ได้ผลดีและสร้างรูปร่างที่ดีให้แก่ตนเอง

ซึ่งก็ไม่ต้องเว้นกังวลไปเพราะวันนี้เราจะมาแนะนำทริคง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้คุณนั้นลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ผล แถมยังทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีมีรูปร่างที่สวยสวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • หลีกเลี่ยงการทานของหวานทุกประเภท

ถึงแม้ว่าของหวาน จะเป็น หนึ่ง ในอาหารที่หลายๆคนนั้นชอบทานเพราะ นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยยังทำให้เรานั้นรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้ แต่รู้หรือไม่ว่า ของหวานถือเป็น หนึ่ง ในอาหารที่เราควรหลีกเลี่ยงหากเราอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี เพราะหากเราทานของวันเป็นประจำนอกจากจะทำให้น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้น

ยังทำให้ร่างกายของเราเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานได้ ฉะนั้น เพื่อการสร้างรูปร่างที่ดีให้แก่ตนเอง หรือหากใครที่อยากลดน้ำหนักที่ได้ผล ทางที่ดีควรที่จะหลีกเลี่ยงการทานของหวานทุกประเภทเพื่อให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้อย่างชัดเจน

  • การพักผ่อนให้เพียงพอ

คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ทุ่มเททั้งเวลาและร่างกายให้กับการทำงานจนทำให้ในบางครั้งร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และแน่นอนว่าหากร่างกายของเราได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอและได้รับผลกระทบต่างๆได้ง่าย

ฉะนั้นเพื่อการสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงหรือหากอยากลดน้ำหนักให้ได้ผลอย่างชัดเจนทั้งที่ดีควรที่จะพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายของเราได้ซ่อมแซมทุกส่วนที่สึกหรอ

  • การสร้างกล้ามเนื้อ

วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ จะทำให้การลดน้ำหนักของเราได้ผลดีที่สุด เพราะการที่เราออกกำลังกายหรือทานอาหารโดยเน้นไปที่การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ จะสามารถช่วยให้ระบบเผาผลาญไขมันของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขอบอกเลยว่าหากเรา ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะร้องไห้กล้ามเนื้อของเราแข็งแรงยังทำให้ไขมันส่วนเกินของเราออกไปจากร่างกายได้อีกด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนจาก  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

เปิดเคล็ดลับการเลือกทานผลไม้อย่างไรให้ช่วยลดน้ำหนัก

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ชื่นชอบการดื่มน้ำผลไม้กันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยถูกปากแล้ว

ทานผลไม้อย่างไรให้ช่วยลดน้ำหนัก ยังช่วยให้ร่างกายของเราตื่นตัว และรู้สึกสดชื่นได้อีกด้วย แถมยังทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์อีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงชอบหันมารับประทานผลไม้ ก็เพราะว่าผลไม้นั้นสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพราะไม่ว่าใครก็ตามในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมองหาวิธีการลดน้ำหนักกันอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้น ผลไม้ จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่หลาย ๆ คนมองว่าสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้ และช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

แต่ทว่า ถึงแม้ผลไม้ในสมัยปัจจุบันนี้จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเรามากขนาดไหนก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าผลไม้บางประเภทจะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะผลไม้บางประเภทจะมีน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง ซึ่งหากเราทานเข้าไปแล้วจะยิ่งทำให้น้ำหนักตัวของเราเพิ่มขึ้นได้ ฉะนั้น หากใครที่อยากเริ่มต้นหันมาลดน้ำหนัก หรือดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง

วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกทานผลไม้อย่างไรให้ช่วยลดน้ำหนักได้ ไปดูกันเลย 

1.การหลีกเลี่ยงผลไม้หวานจัด

ถึงแม้ว่าผลไม้ที่มีรสชาติหวานจะช่วยให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่อนมากขนาดไหนก็ตาม แต่หากเราทานบ่อย ๆ จะยิ่งเพิ่มปริมาณน้ำตาลภายในร่างกายของเรา ซึ่งก็จะทำให้น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นกัน

ฉะนั้น เพื่อให้การลดน้ำหนักของเรามีประสิทธิภาพ ควรที่จะหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสชาติหวานจัดเกินไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการลดน้ำหนักของเรานั่นเอง 

2.การหลีกเลี่ยงผลไม้อบแห้ง

หลายคนอาจจะมองว่า ผลไม้อบแห้งในสมัยปัจจุบันนี้เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา แต่รู้หรือไม่ว่า ผลที่ผ่านการอบแห้งมาแล้ว นอกจากนี้ทำให้สารอาหารที่อยู่ผลไม้ลดลงแล้ว ยังอาจทำให้ร่างกายของของเราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่ายเช่นกัน

เครื่องช่วยฟังราคาถูก    ฉะนั้น ทางที่ดี เพื่อช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ ควรหลีกเลี่ยงอาหารอบแห้ง และควรจะเลือกทานผลไม้สด ๆ แทน เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

3.การหลีกเลี่ยงผลไม้กระป๋อง

ถึงแม้ว่าผลไม้กระป๋องจะเป็นผลไม้ที่สามารถหาทานได้ง่าย แต่หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ผลไม้เหล่านี้จะมีรสชาติที่ค่อนข้างหายมาก ๆ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการลดน้ำหนักของเราได้

ฉะนั้น หากใครที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก ขอบอกเลยว่าควรที่จะหลีกเลี่ยงการทานผลไม้กระป๋องอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การลดน้ำหนักของเรามีประสิทธิภาพ และเห็นผลได้อย่างชัดเจน

3 อาหารทานเล่นที่กินแล้วไม่อ้วนแน่นอน

อาหารทานเล่นที่กินแล้วไม่อ้วน รู้หรือไม่ว่าความอ้วนในสมัยปัจจุบันนี้ไม่เข้าใครออกใครซึ่งแน่นอนว่าหลายๆคนนั้นมักจะเกรงกว่าความอ้วนกันอยู่อย่างแน่นอน

เพราะไม่ว่าใครก็ตามคงไม่อยากที่จะให้รูปร่างของตนเองนั้นอ้วนหรือมีไขมันสะสมภายในร่างกายมากจนเกินไป เนื่องจากว่าหากเรามีรูปร่างที่อ้วนหรือมีน้ำหนักที่เกินมาตรฐานนั้นอาจทำให้เราเสียความมั่นใจและ อาจเสียความเป็นตัวเองในการใช้ชีวิตได้ ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่า คนส่วนใหญ่ไม่ว่าใครก็ตามเริ่มที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นทั้งการออกกำลังกายการเล่นกีฬารวมไปจนถึงการเลือกรับประทานอาหาร ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมหรือมักที่จะทานขนมจุกจิกที่อาจเป็นต้นเหตุทำให้เราอ้วนนั่นเอง

ดังนั้น ปัญหานี้ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายๆคนมักที่จะมองหาวิธีในการแก้ไข เพราะความอ้วนนั้น สามารถแก้ได้ด้วยการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหาร แต่สำหรับคนไหนที่มักมีพฤติกรรมการ ชอบทานอาหารหรือ ชอบทานของจุกจิกวันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารทานเล่นที่รับรองได้เลย

ว่าหากเราทานเป็นประจำหรือทานเยอะมากขนาดไหนก็ตามก็จะไมทำให้น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้นหรือไม่ทำให้เราอ้วนแถมยังเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย

  • กล้วย

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก ขอบอกเลยว่าด้วยนั้นจะอุดมไปด้วย วิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายของเราหากนำมาทานเป็นของว่างขอบอกเลยว่านอกจากจะดีต่อร่างกายหรือช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วยังไม่ทำให้เราอ้วนได้อีกด้วย

  • ถั่วแระญี่ปุ่น

เป็นอีกหนึ่งอาหารทานเล่นที่เราไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะในอาหารประเภทนี้จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีนสูง แถมยังมี รสชาติที่อร่อยถูกปากและมีแคลอรี่ที่ต่ำอีกด้วยหากเราทานเป็นประจำนอกจากจะได้ลิ้มรสความอร่อยแล้วยังไม่ทำให้เราอ้วนได้ง่ายอีกด้วย

  • กรีกโยเกิร์ต

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าอาหารประเภทนี้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่เราควรจะทาน เพราะเป็นอาหารที่เราสามารถนำมาดัดแปลงได้หลากหลายเมนูแถมยังเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพยิ่งเรานำมา ปรุงหรือ นำมาทานเป็นของว่างหรืออาหารทานเล่นนอกจากจะช่วยลดน้ำหนักได้ยังไม่ทำให้เรามีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ถ่านเครื่องช่วยฟัง

ผู้สูงอายุออกกำลังกายแบบไหนดีให้ได้ผลดีมากที่สุด

การออกกำลังในสมัยปัจจุบันนี้มีมากมายหลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกเล่นซึ่งการออกกำลังกายในแต่ละรูปแบบนั้นก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายที่แตกต่างกันออกไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะผู้สูงอายุที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกันบางคนอาจมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี แต่บางคนอาจมีสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยดีแต่ยากที่จะออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการทำงาน หรือช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายนั่นเอง

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเลือกการออกกำลังกายในรูปแบบไหนดีให้เกิดประโยชน์กับร่างกายได้มากที่สุด ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะเราอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยจะได้เคลื่อนไหวร่างกายจึงทำให้ร่างกายอ่อนแอและไม่ค่อยแข็งแรงได้ง่าย

ผู้สูงอายุออกกำลังกายแบบไหนดี เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำการออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุที่รับรองได้เลยว่าหากเล่นเป็นประจำนั่นจะทำให้ร่างกายของผู้สูงอายุ มีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง แถมยังเป็นการออกกำลังกายที่ได้ผลดีต่อสุขภาพร่างกายผู้สูงอายุได้มากที่สุด จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • การออกกำลังกายแบบแอโรบิค

การเต้นแอโรบิกสำหรับผู้สูงอายุแล้วเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะโดยทั่วไปแล้วเราจะเห็นได้ว่าช่วงเย็นๆเราจะเห็นผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักที่จะ ตั้งกลุ่มใหญ่ๆเพื่อไปเต้นแอโรบิคกันอยู่บ่อยๆ เพราะการออกกำลังกายในรูปแบบนี้เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด

แถมยังได้พบเจอเพื่อนๆและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้อีกด้วย แถมการออกกำลังกายในรูปแบบนี้ยังเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกายด้วยการเข้าจังหวะกับเพลงอีกด้วย

  • การออกกำลังกายแบบการเดิน

การออกกำลังกายในรูปแบบนี้ถือเป็นหนึ่งในการออกกำลังกายในรูปแบบที่ง่ายมากๆและเหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุอีกด้วย เพราะโดยปกติแล้วผู้สูงอายุไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกายในรูปแบบการเดินบ่อยๆ

จะสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ เพียงแค่ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวอยู่บ่อยๆ โดยไม่ต้องออกแรงเยอะ ก็สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้แล้ว

  • การออกกำลังกายแบบการวิ่ง

สำหรับผู้สูงอายุที่มีสุขภาพร่างกายที่ค่อนข้างแข็งแรง อยากที่จะออกกำลังกายในรูปแบบของความท้าทายร่างกาย ขอบอกเลยว่าการวิ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมการออกกำลังกายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะทำให้เราได้สุขภาพร่างกายที่ดีแล้ว

ยังเป็นการท้าทายร่างกายว่าร่างกายของเรานั้นยังแข็งแรงดี และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีหรือไม่นั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

เคล็ดลับบรรเทาความเครียดที่ได้ผลดีที่สุด

เคล็ดลับบรรเทาความเครียด เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยความเครียดและความกดดันต่างๆมากมายในการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวเองก็ตามก็มักที่จะ เป็นต้นเหตุที่ทำให้หลายๆคนนั้นมักที่จะมีความเครียด

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า ความเครียดถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเรา ทำให้สุขภาพร่างกายของเราเสื่อมโทรม ร่างกายอ่อนแอ

จนเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ มักที่จะมองหาวิธีกำจัดความเครียดเพื่อให้ตนเองนั้นรู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุขกับการใช้ชีวิตได้มากที่สุด และในสมัยนี้ มันก็มีวิธีการมากมายที่จะช่วยกำจัดความเครียดให้ออกไปจากตัวเราได้

ซึ่งก็อาจจะเป็นวิธีที่หลายๆคนนั้นมักจะมองข้ามหรือหลายๆคนอาจจะรู้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ดังนั้น สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับความเครียดสะสม

ไม่ว่าจะลองทำวิธีไหนก็ไม่สามารถเอาความเครียดออกไปจากตัวเราได้ ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถบรรเทาจากความเครียดรับรองได้เลยว่าวิธีดังกล่าวถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและได้ผลไว้มากที่สุด จะมีวิธีไหนกันบ้างไปดูกันเลย

 

1.วิธีการกอด

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้คงจะชื่นชอบการกอดกันเป็นอย่างมากเพราะการกอดถือเป็นหนึ่งในการแสดงความรู้สึกกับคนรักครอบครัวหรือคนอื่นๆเพื่อทำให้ตนเองนั้นสบายใจซึ่งแน่นอนว่าการกอดถือเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยบรรเทาความเครียดและทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้

ยิ่งถ้าเราได้กอดกับคนที่รัก คนในครอบครัวจะยิ่งทำให้เรารู้สึกสบายใจ เนื่องจากร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมนความสุขออกมา และทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายแต่ความเครียดได้นั่นเอง

2.วิธีการนวด

วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้เร็วมากที่สุด ยิ่งถ้าใครที่ชื่นชอบการนวดเป็นประจำอยู่แล้ว หากรู้สึกเครียดการที่เราได้ออกไป นวด จะยิ่งทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ทำให้เรารู้สึกสบายใจ แถมยังมีส่วนช่วยในการลดอาการตึงเกร็งของกล้ามเนื้อให้บรรเทาลงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

3.วิธีการร้องไห้

ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีที่หลายๆคนนั้นจะไม่ชื่นชอบ และเป็นวิธีที่ไม่สามารถบรรเทาความเครียดได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราได้ระบายออกมาผ่านทางความรู้สึก ผ่านทางน้ำตา ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้เรานั้นรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีแถมยังเป็นวิธีที่ได้ผลดีมากอีกด้วย

เพราะการที่เราได้ร้องไห้จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดทำให้เราได้ระบายความรู้สึกออกมาจนทำให้เรานั้น รู้สึกสบายใจได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

ผลเสียจากการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก

ผลเสียจากการอดอาหา ความอ้วน เป็นหนึ่งในปัญหาที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ ส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้หนักใจกันเป็นอย่างมาก เพราะบางครั้งอาจทำให้หลาย ๆ คนไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่มักที่จะเลือกวิธีการอดอาหารเพื่อที่จะได้ช่วยให้รูปร่างของตนเองนั้นดูดีขึ้น

เพราะวิธีนี้หลายคนมองว่าเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลดีมากที่สุด แถมเราไม่จำเป็นต้องไปออกกำลังกายให้เหนื่อย และยังเป็นวิธีที่เหมาะสม

สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้มีเวลาอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า ถึงแม้ว่าการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักจะเป็นวิธีที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายของเราเสมอไป เนื่องจากอดอาหารจะเป็นการทำลายสุขภาพร่างกายทางอ้อม ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร และได้รับสารอาหารได้ไม่เพียงพอ จนทำให้สุขภาพร่างกายของเราแย่ลงนั่นเอง

แถมยังให้โทษต่อร่างกายของเราได้อีกด้วย ฉะนั้น สำหรับใครที่ยังลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารอยู่ วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าผลเสียจากการที่เราอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักนั้น จะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย 

  • อาการหน้ามืดเป็นลม

แน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเรานั้นไม่ได้รับอาหาร หรือสารอาหารเพื่อเข้าไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ นั้นจะทำให้ร่างกายของเรามีอาการหน้ามืด หรืออาจทำให้บางคนเป็นลมได้ เพราะอาการนี้ถือเป็นหนึ่งในอาการที่พบเจอได้บ่อยมาก ๆ

สำหรับการอดอาหาร  ตรวจการได้ยินออนไลน์   เนื่องจากร่างกายไม่ได้มีอาหารไปหล่อเลี้ยง จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดนั้นเกิดการลดต่ำลง ทำให้ร่างกายของเราอ่อนเพลีย มีอาการเวียนหัว และอาจเป็นลมได้นั่นเอง

  • อาการอารมณ์แปรปรวน

เมื่อไหร่ก็ตามร่างกายของเราเกิดการลดแป้ง หรือน้ำตาล ผลเสียที่ร่างกายของเราจะได้รับเลยก็คือ อารมณ์ มีอาการหงุดหงิด อารมณแปรปรวนง่าย คล้าย ๆ กับอาการของคนเป็นประจำเดือน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกายของเราไม่มีสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเข้าไปเลี้ยง จึงอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับกระทบทางอารมณ์ได้ 

  • อาการปัญหาเกี่ยวกับผิว

รู้หรือไม่ว่า หากร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ดีไม่เพียงพอนั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวของเราได้อีกด้วย ซึ่งอาจทำให้ผิวของเราเกิดอาการแห้ง ผิวขาดน้ำ ไม่เด้ง รวมไปถึงปัญหาผิวอื่น ๆ มากมายเช่นกัน เพราะการที่เราอดอาหารจึงเป็นหนึ่งในผลเสียที่อาจส่งผลกระทบไปยังสุขภาพผิวของเราได้นั่นเอง

ทางที่ดี หากอยากลดน้ำหนักให้ได้ประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย เราก็ควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์เป็นประจำ เพื่อไม่เป็นการทำร้ายสุขภาพร่างกาย

โปรตีนชนิดใดดีที่สุดหลังออกกำลังกาย

โปรตีนชนิดใดดีที่สุดหลังออกกำลังกาย ในการออกกำลังกายนั้นแน่นอนว่าสิ่งที่เราสูญเสียไปนั้นก็คือพลังงานในร่างกายและการสูญเสียนั้นก็หมายถึงร่างกายนั้นอาจจะเกิดการสึกหรอได้

ดังนั้นแล้วหลังการออกกำลังกายทำไมเราจึงต้องได้รับสารอาหารหรือโปรตีนก็เพื่อนำมาซ่อมแซมนส่วนที่สึกหรอหรือในส่วนที่ร่าวกายนั้นสูญเสียไปนั่นเองและสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่าวกายหลักๆนั้นก็คือแรตีนนั่นเองและโปรตีนที่สำคัญนั้นก็มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น โปรตีนจากเมล็ดฟักทองและโปรตีนถั่วได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นอาหารฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพ

โปรตีนจากเมล็ดฟักทองมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีอาการต่างๆ เช่น อาการบวมหรือภูมิคุ้มกันผิดปกติ สมูทตี้ CALM ของ TUSOL มีเคอร์คูมินที่มีฤทธิ์สูง

ซึ่งช่วยลดการอักเสบ โปรตีนจากเมล็ดฟักทองให้แมกนีเซียม สังกะสี และแร่ธาตุอื่นๆ ในปริมาณสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาว โปรตีนถั่วอุดมไปด้วยกรดอะมิโนสายโซ่กิ่ง (BCAAs) ลิวซีน ไอโซลิวซีน และวาลีน ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายสร้างโปรตีนจากกล้ามเนื้อมากขึ้น เมื่อยิ่งรับแระทานหลังออกกำลังได้ในปริมาณที่มากเท่าไหร่หรือในปริมาณี่เหมาะสมนั้นกบ้ามเนื้อก็จะได้รับการซ่อมแซมแบะบำรุงหลังจากการออกกำลังกายนั่นเองด้วย

อาหารอะไรดีที่สุดสำหรับสุขภาพในระยะยาวและการสร้างกล้ามเนื้อใหม่ นอกจากการทานโปรตีนต่างๆอย่างทีเรานั้นทราบดีอยู่แล้วว่าโปรตีนเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญ

แต่ทั้งนี้ก็สามารถที่จะรับประทานอาหารต่างๆด้ไม่ว่าจะเป็น อาหารที่อุดมด้วยอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปทั้งหมดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยปรับปรุงสุขภาพของหัวใจ ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ปรับปรุงสุขภาพของลำไส้ ช่วยในการลดน้ำหนัก ป้องกันหรือทำให้เบาหวานกลับมาเป็นใหม่ และป้องกันโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท

การบริโภคอาหารทั้งมื้อที่อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ผลไม้ และผักเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดและควรเป็นรากฐานของการรับประทานอาหารใดๆ การทำอาหารที่บ้านช่วยให้คุณรู้ได้อย่างชัดเจนว่าอาหารของคุณมีอะไรบ้าง แม้ว่าการรับประทานอาหารนอกบ้านจะสะดวกกว่า ร้านอาหารหลายแห่งใช้น้ำตาล เกลือ และไขมันที่เติมเข้าไปเพื่อกระตุ้นปุ่มรับรสของคุณ

ทำให้คุณอยากอาหารหรือบริโภคมากเกินไป อาหารว่างระหว่างเดินทางเป็นเรื่องง่ายและเหมาะสำหรับเป็นกำลงังใจหรือช่วยเพิ่มพลังหลังออกกำลังกายได้ ดังนั้นอย่าลืมเลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสมที่มีคุณภาพดี เลือกของว่างที่ให้ทั้งความชุ่มชื้นและส่งเสริมการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ การดื่มน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเติมน้ำและปรับสมดุลอิเล็กโทรไลต์หลังจากสูญเสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง

ถั่วในขนมปังปิ้งสามารถปฏิวัติอาหารอังกฤษได้

ปฏิวัติอาหารอังกฤษได้ นักวิทยาศาสตร์มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนอาหารของชาวอังกฤษโดยเพิ่มถั่วฟาบาที่ปลูกในสหราชอาณาจักรลงในขนมปังประจำวันของประเทศ

นักวิจัยและเชฟที่มหาวิทยาลัยรีดดิ้งมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ผู้บริโภคชาวอังกฤษและผู้ผลิตอาหารเปลี่ยนมาใช้ขนมปังที่มีถั่วฟาบ้า (หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าถั่วปากอ้า) ทำให้มีสุขภาพดีขึ้นและทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยลง ทีมนักวิจัย 5 ทีมในมหาวิทยาลัยรีดดิ้ง พร้อมด้วยสมาชิกของสาธารณชน เกษตรกร อุตสาหกรรม และผู้กำหนดนโยบาย

กำลังทำงานร่วมกันเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดต่ออาหารสหราชอาณาจักรในรุ่นต่อรุ่น

เป้าหมายคือการเพิ่มถั่วในอาหารของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะถั่วฟาบา เนื่องจากสภาพการปลูกที่เอื้ออำนวยในสหราชอาณาจักรและการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการที่ยั่งยืน แม้จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมแทนถั่วเหลืองนำเข้าที่แพร่หลายซึ่งปัจจุบันใช้ในขนมปังเป็นสารปรับปรุง นักวิจัยกล่าวว่าถั่วฟาบ้าส่วนใหญ่ที่ปลูกในสหราชอาณาจักรถูกนำไปเป็นอาหารสัตว์ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์กำลังปรับปรุงความยั่งยืน

และคุณภาพทางโภชนาการของถั่วที่ปลูกในสหราชอาณาจักร โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรเปลี่ยนพื้นที่ผลิตข้าวสาลีบางส่วนมาเป็นถั่วฟาบาเพื่อการบริโภคของมนุษย์

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Nutrients ถั่วฟาบามีโปรตีนที่ย่อยง่าย ไฟเบอร์ และธาตุเหล็กสูงเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นสารอาหารที่อาหารในสหราชอาณาจักรมีในปริมาณต่ำ แต่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับการทำอาหารและรับประทานถั่วฟาบา ซึ่งเป็นความท้าทายที่สำคัญ “เราต้องคิดแบบรอบด้าน: คนส่วนใหญ่กินอะไร และเราจะปรับปรุงโภชนาการของพวกเขาได้

อย่างไรโดยที่พวกเขาไม่ต้องเปลี่ยนอาหาร คำตอบที่ชัดเจนคือขนมปัง!” ศาสตราจารย์ Julie Lovegrove หัวหน้าโครงการ Raising the Pulse อธิบาย

“96 เปอร์เซ็นต์ของคนในสหราชอาณาจักรกินขนมปัง และ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นขนมปังขาว ซึ่งส่วนใหญ่มีส่วนผสมของถั่วเหลือง เราได้ทำการทดลองบางอย่างแล้ว และพบว่าแป้งถั่วแระสามารถทดแทนแป้งถั่วเหลืองนำเข้าและแป้งสาลีบางชนิด  เครื่องช่วยฟังอย่างดี   ซึ่งมีสารอาหารต่ำได้โดยตรง เราไม่เพียงปลูกถั่วฟาบาที่นี่เท่านั้น แต่ยังผลิตและทดสอบขนมปังที่อุดมด้วยถั่วฟาบ้าด้วยคุณภาพทางโภชนาการที่ดีขึ้น”

เธอกล่าวต่อ Raising the Pulse เป็นโครงการวิจัยแบบสหสาขาวิชา ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก UKRI Biotechnology and Biological Sciences Research Council ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม ‘Transforming UK Food Systems’ เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการประกาศทุนสาธารณะ 2 ล้านปอนด์อายุสามปีในวารสาร Nutrition Bulletin

เช่นเดียวกับการให้คำปรึกษาและทำงานร่วมกับสมาชิกในชุมชนที่ด้อยโอกาส จะมีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้อาหารแปลกใหม่ที่หอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัย Reading และร้านอาหาร “นักเรียนจะถูกขอให้ให้คะแนนผลิตภัณฑ์ที่ทำหรือเสริมคุณค่าด้วย faba bean เช่น ขนมปัง ขนมปังแบน และฮัมมูส

พวกเขาจะถูกถามคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกอิ่มนานเท่าไหร่และความชอบของอาหาร เราหวังว่าถั่วฟาบ้าจะช่วยเพิ่มความอิ่ม รวมถึงให้คุณค่าทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่รับประทานได้อย่างเพลิดเพลิน” Matt Tebbit ผู้ดำเนินการบริการจัดเลี้ยงของมหาวิทยาลัยและเป็นผู้นำโครงการวิจัย ‘Menus for Change’ ของมหาวิทยาลัยกล่าว

ก่อนที่จะมีผลิตภัณฑ์ที่จะทดสอบ ถั่วจะต้องปลูก เก็บเกี่ยว และสี Raising the Pulse พยายามปรับปรุงขั้นตอนเหล่านี้เช่นกัน นักวิจัยจะเลือกหรือเพาะพันธุ์ที่ดีต่อสุขภาพและให้ผลผลิตสูง โดยทำงานร่วมกับดินเพื่อปรับปรุงผลผลิตผ่านแบคทีเรียตรึงไนโตรเจน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำฟาร์มถั่วฟาบา การวางแผนสำหรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และอื่นๆ

วิธีในการเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อผิวคุณ

วิธีในการเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ความงามมากมายให้เราได้เลือก เดินไปตามทางเดินของร้านขายยาแล้วคุณจะเห็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามหลายร้อยรายการที่ให้คำมั่นสัญญาได้ทุกประเภท

ปัญหาคือทุกสิ่งที่เราใส่ลงบนผิวของเราจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของเรา ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั่วไปมักเต็มไปด้วยสารเคมีที่เราไม่คิดว่าจะปล่อยให้เข้าสู่ร่างกายหากเรารับประทานเข้าไป การเปลี่ยนมาใช้การดูแลผิวจากธรรมชาติทั้งหมดหมายถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพผิวและร่างกายของคุณและต่อโลกโดยรวม

ต่อไปนี้คือบางสิ่งที่เราพบว่ามีประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงนี้ ให้เวลา เมื่อใดก็ตามที่คุณเปลี่ยนกิจวัตรการดูแลผิวอย่างรุนแรง จะมีช่วงระยะเวลาปรับตัวเล็กน้อย เมื่อคุณเปลี่ยนไปใช้ครั้งแรก คุณอาจสังเกตเห็นความแตกต่าง – ผิวของคุณอาจมีความมันมากกว่าปกติเล็กน้อย บางทีมันอาจจะแห้งกว่า

เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวได้ เราเคยชินกับการใช้สารเคมีบนผิวของเรา และเรายังสามารถปรับตัวให้เข้ากับส่วนผสมจากธรรมชาติได้อีกด้วย เมื่อเราเปลี่ยนไปใช้ส่วนผสมที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น บางครั้งเราอาจตอบสนองในรูปแบบแปลกๆ เมื่อร่างกายของเราเชื่อมต่อกับสมดุลตามธรรมชาติอีกครั้ง

แทนที่จะใช้สิ่งนี้เป็นสัญญาณว่าผิวของคุณไม่ชอบผลิตภัณฑ์ใหม่ ลองให้เวลากับมันสักสองสามสัปดาห์ ให้โอกาสร่างกายของคุณกลับเข้าสู่สมดุลตามธรรมชาติ

จดจำการเชื่อมต่อของคุณกับโลก การเลือกหยุดใช้ผลิตภัณฑ์เคมีมีผลกระทบอย่างมาก ไม่ใช่แค่ร่างกายของคุณเท่านั้น แต่ต่อโลกของเราด้วย มันส่งผลกระทบต่อมหาสมุทร ทางน้ำ สัตว์ และอากาศที่เราหายใจ การเปลี่ยนไปใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติล้วนเป็นของขวัญที่ไม่เพียงแต่มอบให้กับตัวคุณเองเท่านั้น แต่ยังมอบให้แก่โลกทั้งใบด้วย

เมื่อคุณอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การเตือนตัวเองว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงนั้นจึงดีไม่เพียงแต่สำหรับคุณเท่านั้นแต่สำหรับคนอื่นๆ ด้วย

ทดลองเพื่อดูว่าอะไรได้ผล หากผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติทั้งหมดตัวแรกไม่เหมาะกับคุณ คุณอาจต้องทดลองกับผลิตภัณฑ์บางอย่างก่อนที่จะพบสิ่งที่คุณชอบ ตัวอย่างเช่น BOOMSILK และ BOOMSTICK GLO ต่างก็เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด Boomsilk เป็นครีมหรูหราที่นุ่มและบำรุงผิวของคุณ

ตั้งแต่หัวจรดเท้า Boomstick Glo ให้ความชุ่มชื้นและการบำรุงเช่นเดียวกับ Boomsilk แต่มาในรูปแบบแท่งแบบพกพาที่คุณสามารถพกพาไปได้ทุกที่ จากการทดลองทั้งสองอย่าง ลูกค้า Boom ของเราได้ค้นพบว่าสิ่งใด

ที่เหมาะกับพวกเขา และผิวใดที่ “ชอบ” ที่สุด มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ยอมทาลิปสติกบนแก้มเพื่อแต่งเติมเร็วๆ บ้างไหม แนวคิดทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลัง BOOM! น้อยคือมาก ผู้หญิงไม่ควรต้องใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่แตกต่างกันมากมาย โดยเฉพาะในยุค 50, 60, 70 และหลังจากนั้น

คุณควรจะทำให้กิจวัตรการแต่งหน้าของคุณง่ายขึ้น โดยเหลือเพียงไม่กี่รายการที่ดึงเอาสิ่งที่ดีที่สุดของคุณออกมา นั่นเป็นเหตุผลที่ Cindy Joseph ผู้ก่อตั้งผู้ล่วงลับของเราได้สร้างสรรค์ Boomsticks ขึ้นมา เครื่องสำอางแบบแท่งครีมขนาดกะทัดรัดทั้งสามนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ง่ายขึ้น แทนที่ผลิตภัณฑ์จำนวนมาก

ในกระเป๋าแต่งหน้าของคุณ บูม เป็นเสียงของการปฏิวัติวงการเครื่องสำอาง ในขณะที่บริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางอื่นๆ มีผลิตภัณฑ์ “ต่อต้านริ้วรอย” BOOM! เป็นบริษัทเดียวที่เป็น “PRO-AGE” และไม่ใช่เราคนเดียวที่คิดว่าอายุเป็นสิ่งสวยงาม

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

ผู้สมัครรับวัคซีน RSV แสดงผลการทดลองที่คาดหวังในทารกและผู้สูงอายุ

ผู้สมัครรับวัคซีน RSV  การทดลองขั้นสุดท้ายแสดงให้เห็นว่าวัคซีนตัวเลือกของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงในกลุ่มที่เปราะบางที่สุด

หลังจากใช้ความพยายามมากว่าครึ่งศตวรรษ ดูเหมือนว่านักวิทยาศาสตร์จะได้วัคซีนตัวแรกสำหรับป้องกันไวรัสทางเดินหายใจ (RSV) ซึ่งเป็นเชื้อทั่วไปที่สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายในทารกและผู้สูงอายุได้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ วัคซีนตัวเลือกที่พัฒนาโดยไฟเซอร์พบว่ามีประสิทธิภาพสูงในการปกป้องทารกแรกเกิดและผู้สูงอายุจากการเจ็บป่วยที่รุนแรงในข้อมูลการทดลองระยะสุดท้ายที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 เมษายน

ผลการวิจัยที่นำเสนอในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (NEJM) แสดงให้เห็นว่าทารกที่เกิดจากมารดาที่ได้รับวัคซีนในระหว่างตั้งครรภ์

มีโอกาสน้อยที่จะเป็นโรคทางเดินหายใจส่วนล่างที่รุนแรงจากเชื้อ RSV เช่น โรคปอดบวมและหลอดลมฝอยอักเสบ วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพร้อยละ 82 ในช่วง 90 วันแรกของชีวิตทารก และร้อยละ 69 มีประสิทธิภาพในช่วง 6 เดือนแรก

ในการตรวจสอบแยกต่างหากใน NEJM ในกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไป วัคซีนได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงถึง 86 เปอร์เซ็นต์ในการป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกี่ยวข้องกับ RSV RSV เป็นหนึ่งในสาเหตุการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่พบได้บ่อยที่สุดในทารกและเด็กเล็ก เช่นเดียวกับสาเหตุสำคัญของการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป

Yvonne Maldonado, MD, ศาสตราจารย์ด้านสุขภาพและการติดเชื้อระดับโลกกล่าว โรคที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในแคลิฟอร์เนียซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวิจัย “ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนสำหรับการติดเชื้อที่สำคัญนี้”

ไวรัส Syncytial ระบบทางเดินหายใจ (RSV) คืออะไร RSV เป็นไวรัสทางเดินหายใจที่แพร่ระบาดในจมูก คอ ปอด และทางเดินหายใจ

ทารกเกือบทุกคนได้รับเชื้อ RSV อย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนอายุ 2 ขวบ อ้างอิงจาก National Foundation for Infectious Diseases ในขณะที่เด็กโต ผู้ใหญ่ และวัยรุ่นส่วนใหญ่จะฟื้นตัวภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์หลังจากติดเชื้อ

แต่คนบางกลุ่มมีความเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยรุนแรง รวมถึงทารกที่คลอดก่อนกำหนดและทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน บุคคลที่เป็นโรคหัวใจหรือปอดเรื้อรัง ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และ ผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไป RSV อาจทำให้เกิดอาการทางเดินหายใจส่วนบน แต่การติดเชื้อที่รุนแรงที่สุดทำให้เกิดการอักเสบของทางเดินหายใจและปอดบวม

ซึ่งอาจนำไปสู่การแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่ไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กแรกเกิด ทารก และเด็กเล็กอื่นๆ” ดร. มัลโดนาโดกล่าว สำหรับผู้สูงอายุนั้น ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประเมินว่าในแต่ละปีมีผู้สูงอายุในสหรัฐอเมริกาจำนวน 60,000 ถึง 160,000 คนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และ 6,000 ถึง 10,000 คนในจำนวนนี้เสียชีวิตเพราะการติดเชื้อ RSV

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด