ผลไม้สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์นั้นจะต้องการปริมาณอาหาร และสารอาหารที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อลูกน้อยในครรภ์ จึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ และมีส่วนช่วยในการบำรุงครรภ์ เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์ของเรานั้นได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และมีพัฒนาการต่าง ๆที่ดี บทความนี้จึงแนะนำเกี่ยวกับผลไม้ที่มีวิตามิน สารอาหารเพื่อบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และผลไม้ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทาน

 

  • ผลไม้ช่วยบำรุงครรภ์

 

กล้วย ในกล้วยนั้นมีธาตุเหล็ก วิตามินต่าง ๆ และเส้นใยอาหาร ช่วยให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้นมีระบบขับถ่ายที่ดี และยังช่วยควบคุมฮอร์โมนในร่างกายให้คงที่ ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอารมณ์แปรปรวน อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย

ฝรั่ง มีวิตามิน C และวิตามิน A สูง ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของคุณแม่ตั้งครรภ์ให้แข็งแรงขึ้น ไม่เป็นหวัดง่าย และยังช่วยลดอาการเลือดออกตามไรฟันผลข้างเคียงของคุณแม่ตั้งครรภ์อีกด้วย

แอปเปิ้ล สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และยังมีวิตามินอีกมากมายที่มีส่วนช่วยในการบำรุงครรภ์

มะละกอสุก เป็นเรื่องปกติของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ มักจะมีอาการท้องผูก การรับประทานมะละกอสุกที่มีเส้นใยอาหารสูง สามารถช่วยลดอาการท้องผูก ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น

มะพร้าว มีโปรตีนที่มีส่วนช่วยทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ 

 

  • ผลไม้ที่ไม่ควรรับประทานขณะตั้งครรภ์

 

ทุเรียน ในทุเรียนมีแก๊สเป็นส่วนประกอบมาก ผู้ที่ตั้งครรภ์จึงไม่ควรรับประทาน เพราะจะทำให้เกิดอาการจุก เสียด แน่นท้อง จากการที่มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากเกินไป อาจส่งผลให้เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้

ลำไย เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ผู้ที่ตั้งครรภ์มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์อยู่แล้ว จึงไม่ควรรับประทานผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดมากจนเกินไป ก่อให้เกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้

มะม่วงดิบ ในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นจะมีการขยายตัวของมดลูก ทำให้ระบบการย่อยอาหารมีประสิทธิภาพน้อยลง การรับประทานมะม่วงดิบที่ย่อยยาก จะทำให้เกิดอาการแน่นท้องได้ แต่หากเป็นมะม่วงสุกสามารถรับประทานได้ เพราะจะย่อยได้ง่ายกว่ามะม่วงดิบ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะในมะม่วงสุกมีน้ำตาลสูง 

ผลไม้ที่มีการหมักดองทุกชนิด คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง เพราะในผลไม้หมักดองมักจะมีสารที่ใช้ในการหมักดองที่อาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ของเราได้ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่แพ้ท้องแล้วอยากรับประทานของเปรี้ยว ของหมักดอง ควรอดใจไว้ก่อนเพื่อลูกน้อยในครรภ์ของเรา

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สมัครสมาชิกหวยออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ

ผลไม้ของไทยที่มีรสชาติเปรี้ยว

ถ้าเรานั้นจะพูดถึงผลไม้ของไทยเรานั้นมีมากมายหลายอย่างเพราะว่าประเทศไทยเรานั้นมีทั้งต้นไม้และผลไม้ที่เรานั้นสามารถปลูกเอามากินได้ทั้งผล ส่วนต้นนั้นก็ทำเป็นริมรั้วนั้นได้และยังเป็นต้นไม้มงคลอีกด้วยมีผลไม้ที่รสชาติที่เปรี้ยวและหวานนั้นหลายชนิดที่ให้เรานั้นเลือกปลูกดังนั้นเราจะปลูกอะไรนั้นก็ได้อย่างเช่นเรานั้นจะยกตัวอย่าง  ต้นมะยม  ที่เรานั้นเชื่อว่าควรปลูกไปทางทิศตะวันตก

เพราะว่าจะทำให้คนนั้นนิยมชมหรือว่าชื่นชอบเรา หรือว่าเรานั้นมีเมตา หรือว่าต้นทับทิม เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ แห่งความอุดมสมบูรณ์ที่ช่วยป้องกันเรื่องสิ่งเลวร้ายต่างๆนั้นได้ และก็มีบางอย่างหรือว่าต้นไม้บางชนิดนั้นที่เรานั้นสามารถที่จะเอามาใช้ได้ทั้งต้นและใบเลย  ไม่ว่าจะเป็นเปลือก  เมล็ด  ราก  ใบ  ที่เรานั้นสามารถนำมาปรุงยานั้นได้ ซึ่งวันนี้เรานั้นจะพามาดูผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวที่เรานั้นรู้จักที่เรานั้นสามารถที่นิยมเอามาปลูกและในสวนนั้นได้ หรือว่าจะปลูกประดับในสวนนั้นได้เหมือนกันและก็มีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งเป็นผลไม้ที่เรานั้นมีสรรพคุณทางยาและสามารถช่วยรักษาโรคนั้นได้จริง

ตะลิงปลิง  นั้นเป็นผลไม้ที่มีรสชาติที่เปรี้ยวและต้นนั้นไม่ชอบน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลาที่นานและชอบแสงแดงซึ่งเรานั้นจะเก็บลูกนั้นมากินแบบว่าสดๆนั้นก็ได้เอามากินจิ้มกับเกลือหรือว่ากินกับกะปิหรือว่าน้ำปลาหวานนั้นก็ได้ หรือว่าเรานั้นจะเอามาใส่ในแกงที่เรานั้นต้องการรสชาติที่เปรี้ยวนั้นก็ได้เช่นกันอย่างแกงส้ม ซึ่งสามารถช่วยเรื่องของการเป็นยาแก้ไอ  หรือว่าแก้เรื่องของเลือดที่ออกตามไรฟันนั้นได้เป็นอย่างดี 

มะเฟือง มะเฟืองที่เรานั้นรู้จักกันดีนั้นเป็นต้นลูกนั้นจะสีเหลืองหน้ากินบางต้นนั้นก็มีรสชาติที่หวานส่วนบางต้นนั้นมีรสชาติที่เปรี้ยวลูกมะเฟืองนั้นสดนั้นมีสารออกซาเลตสูงจึงเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยเป็นโรคไตแต่ว่าเป็นวิตามินซีค่อนข้างนั้นสูง ช่วยในเรื่องความชุ่มคอ  แก้กระหาย ช่วยในเรื่องรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน  เป็นยาระบายแก้ท้องผูก รสชาติที่ดเปรี้ยว

มะยม  นั้นเป็นต้นไม้ที่เป็นพุ่มนั้นไม่ชอบพื้นที่มีน้ำนั้นขังมากหรือว่าน้ำท่วม ชอบดินที่เป็นดินร่วน เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีนั้นสูง นั้นมีฤทธิ์ที่ช่วยในการสมานแผลและใช้เป็นยาขับปัสสาวะในยอดอ่อนนั้นมีฟอสฟอรัสช่วยในการขับเหงื่อและกระตุ้นในเรื่องของความอยากของอาหารนั้นอีกด้วย 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ชุดตรวจ hiv

ผลเสียที่จะตามมาหากเรามีปัญหาการหลับยาก

                 การที่เรานอนไม่หลับ หรือการที่เรานอนหลับยาก กว่าจะหลับก็ปาเข้าไปวันใหม่ของอีกวัน แถมยังต้องตื่นแต่เช้าอีกนั้นย่อมจะมีผลเสียต่อตัวเราเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าการนอนไม่หลับหรือการนอนหลับยากนั้นเราจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่โรค แต่มันจะส่งผลตามมาให้เราเกิดเป็นโรคและมีอันตรายต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก และยังส่งผลกับชีวิตประจำวันของเรามากเช่นกัน เพราะเราจะได้อ่านข่าวอยู่บ่อยบ่อยถึงปัญหาของคนที่นอนไม่หลับในเวลากลางคืนว่าในตอนกลางวันร่างกายจะเริ่มเพลียและล้าจะการที่กลางคืนเราพักผ่อนน้อย จะส่งผลให้กลางวันเราเกิดอาการง่วงนอน

ซึ่งสำหรับบางคนที่ต้องทำงานอยู่กับเครื่องจักรที่ต้องมีการระมัดระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลาถือว่าเป็นส่งที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับคนงานถูกเครื่องจักร ตัดหรือบดนิ้วกันอยู่บ่อยซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากความเพลียที่ร่างกายได้พักผ่อนน้อย เพราะนอนน้อย หรือหากใครทีทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรก็จริงแต่ถ้ามีอาการง่วงนอนแล้วไม่ได้นอนก็จะมีอาการรู้สึกหงุดหงิด

หรือบางทีทำให้ความคิดและการตัดสินใจคลาดเคลื่อนซึ่งจะส่งผลกับการทำงานของคุณเองโดยตรง โดยคุณอาจจะถูกตำหนิจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานได้หากทำงานออกมาผิดพลาดบ่อยบ่อย และที่สำคัญที่เป็นอันตรายร้ายแรงก็คือ การที่เราง่วงนอนแต่ยังต้องฝืนขับรถไปที่ไหน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็คือว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแทบทั้งสิ้น

ซึ่งเรามักจะได้พบเห็นข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อสืบหาสาเหตุก็มักจะพบว่าสาเหตุของอุบัติเหตุนั้นนั้นเกิดมาจากการหลับใน เพราะว่ามีการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึงที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เกิดจากที่เราในช่วงกลางคืนนั้นนอนไม่หลับ หรืออาจจะมีปัญหาการนอนหลับยาก ซึ่งควรจะต้องรีบหากทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพราะผลกระทบมีมากมายมหาศาล ทั้งต่อการดำเนินชีวิต ทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน

และยังก่อนให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และนอกจากนี้ยังมีโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการเกิดโรคได้อีกหลายชนิดที่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เช่นโรคหัวใจ  โรคเบาหวาน หรือแม้แต่โรคไข้หวัดต่างต่างเป็นต้น

        ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการที่จะเกิดอันตรายกับตัวเรา เราจึงควรแก้ไขปัญหาอาการนอนไม่หลับ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกาย และพยายามลดความเครียดและพยายามนอนให้เป็นเวลา หากยังไม่ดีขึ้นควรจะปรึกษาแพทย์ 

 

 

ขอขอบคุณ  ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี   ที่ให้การสนับสนุน

วิธีป้องกันตัวเอง จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การป้องกันเเละดูเเลตัวเองไห้มีสุขภาพร่างกายที่เเข็งเเรงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง ที่เราต้องทำกันในชีวิตประจำวันอยู่เเล้ว เพราะสมัยนี้โรคติดต่อนั้นเยอะมาก ไหนจะโรคระบาดหรือไวรัสตัวใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศอีก การดูเเลตัวเองจากโรคติดต่อก็เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เเต่โรคติดต่อที่เราต้องตระหนักเเละพึงระลึกอยู่เสมอที่อยู่ในชีวิตประจำวันเเละการใช้ชีวิตของเราว่า เวลาเรามีคู่ครอง เราควรปฏิบัติตนอย่างไรก่อนเเต่งงาน หรือถ้ายังไม่ถึงขั้นเเต่งงาน เราควรจะทำอย่างไรไม่ไห้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งวิธีการดูเเลตัวเองไห้ห่างจากการติดโรคทางเพศสัมพันธ์นั่นก็คือ

 1.ไม่สำส่อนทางเพศ ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ในสมัยนี้พบว่ามีคนเปลี่ยนคู่นอนบ่อยมาก หรือเรียกว่า วันไนท์สเเตนนั่นเอง เเละบางคนดื่มสุรามา เเล้วเมา จนมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน อาจทำไห้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เเละการสำส่อนทางเพศ เป็นเหตุทำไห้เกิดโรคติดต่อได้ ก็มีโรค เอดส์ ซิฟิลิส เริม เป็นต้น ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาทางการเเพทย์โดยถูกต้อง เพราะถ้าไม่รักษาอาจจะเจ็บเเละรักษาไม่หายขาดได้

 2.การป้องกันเเละการใช้ถุงยางอนามัย การใช้ถุงยางอนามัย ผลการวิจัยออกมาเเล้วว่า ช่วยติดต่อโรคที่ติดต่อจากเพศสัมพันธ์ได้ มากกว่า70% เเละสามารถช่วยลดการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมด้วย 

3.การตรวจสุขภาพเเละการเเต่งงาน ในการเเต่งงานนั้น เราไม่รู้ว่าคู่สมรสของเรา พบเจอหรือผ่านใครมาบ้าง เเม้เเต่ตัวเรา ต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วย โดยการเปิดอกคุยกัน ไปหาหมอ เเละตรวจโรคติดต่อ ที่เราเเละคู่สมรสของเราอาจจะติดมาเเบบไม่รู้ตัว เปิดอกคุยกันเเบบไม่ต้องอาย เพื่อเวลาเจอโรค จะได้ไม่ไปเเพร่เชื้อไห้คู่สมรสของเรา เเล้วจะได้รับการรักษาได้ยามากินตามที่หมอเตรียมไห้ เพื่อรักษาอาการที่เป็นอยู่ไห้หายดี เเละเตรียมพร้อมที่จะวางเเผนเเละมีลูกต่อไป โดยไม่เป็นอันตรายในอนาคต

 4.การตรวจสุขภาพประจำปีของเราเอง การตรวจสุขภาพประจำปีนั้น ถ้าเราคิดว่าเรามีความเสี่ยง ก็สามารถไปตรวจได้ว่าเราเป็นอะไร จะได้รับการรักษาจากคุณหมอไห้หายขาด ไม่ต้องอาย เพราะสุขภาพของเราสำคัญที่สุด เพราะถ้าเรารู้ตัวเอง เราจะไม่ต้องไปเเพร่เชื้อไห้คนอื่นอีก 

เพื่อความปลอดภัยกับคนอื่นเเละตัวเราเอง การดูเเลตัวเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราสนใจเเละดูเเลสุขภาพของตัวเองเเละเเฟนหรือคู่สมรสของเรา ถ้าเรารู้เเล้ว เราจะได้ระลึกอยู่เสมอว่า เราเป็นอะไร เเละจะไม่ต้องไปเเพร่เชื้อไห้คนอื่นอีก เพื่อลดความเสี่ยงที่ทำไห้เกิดโรคมากขึ้น เเละเพื่อความสบายใจของตัวเราเองด้วย

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  ร้านขายยามีชุดตรวจเอดส์ขายไหม

สวย ปัง หุ่นยั่งยืน

ปัจจุบันถือได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้นไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม แต่ที่เป็นกระแสมากที่ก็คงจะหนีไม่พ้นการลดน้ำหนักแล้วสร้างหุ่นที่มีสัดส่วนที่ดี หรือที่หลายๆคนนำลังจะสร้างคือกล้ามเนื้อ เพื่อให้ร่างกายดูมีสุขภาพที่แข็งแรง และแน่นอนว่าการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงนั้นถือว่าต้องใช้ระยะเวลา

ใครที่มีความคิดว่าอยากจะให้ได้เห็นผลเร็วๆนั้นก็จะไม่ได้ หลายๆคนที่ทำแล้วล้วนประสบความสำเร็จนั้นต่างก็ต้องใช้ระยะเวลาอยู่พอสมควร และการที่เราจะมีหุ่นที่ดีได้นั้นมันคงไม่มีวิธีอะไรมากมายเลยนอกจากการ ควบคุมอาหาร กับ การออกกำลังกาย มักจะเจอคำถามอยู่บ่อยครั้งว่า อยากหุ่นดีต้องทำอย่างไร อยากลดน้ำหนักต้องทำอย่างไร

.คำถามเหล่านี้แท้จริงแล้วคุณไม่รู้วิธีการมันจริงๆหรือ หรือคุณหวังเพียงได้วิธีการแบบรวดเร็ว ใดๆแล้วคุณอาจจะทราบดีอยู่แล้วว่ามันจะต้องทำอย่างไร การควบคุมอาหาร กับ การออกกำลังกาย จะทำให้สุขภาพร่างกายของคุณแข็งแรง และยังทำให้หุ่นของคุณคงที่แบบเดิมไปได้นาน สิ่งสำคัญคือเรื่องของการควบคุมอาหาร ซึ่งหลายๆอาจจะสงสัยอยู่ก็ได้ว่า อาหารจะสำคัญกว่าการออกำลังกายได้อย่างไร ในเมื่ออาหารคือสิ่งที่ทำให้เรานั้นอ้วน น้ำหนักมาก ก็คงต้องย้อนกลับไปถามตัวเองอีกครั้งแล้วว่า อาหารที่ทานเข้าไปนั้นมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน แล้วทานในปริมาณเท่าไหร่

การควบคุมอาหารไม่ใช่การที่คุณจะต้องอดอาหารสักมื้อ หรืองดอาหารบางอย่าง เพียงแต่คุณต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย อย่างเช่น คุณคิดว่าไขมันคือสิ่งที่ทำให้คุณอ้วน แล้วคุณงด แต่ร่างกายจำเป็นต้องการไขมัน คุณก็เพียงแค่แหล่งอาหารอื่นที่มีไขมันมาทดแทน อย่างเช่น อโวคาโด ที่มีไขมันดีเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หรือการทานข้าว ลองเปลี่ยนไปทานข้าวกล้อง หรือถ้าไม่เปลี่ยนก็ลองลดปริมาณลงทีนิดละหน่อยเพื่อให้ร่างกายได้ปรับความคุ้นชิน เป็นต้น เพราะอาหารถือว่าเป็นปัจจัยหลัก การออกกำลังกายเป็นปัจจัยรองเลยก็ว่าได้

เพราะถ้าหากเราไม่ทานอาหาร เราก็จะมีแรงไปออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังจะต้องอาศัยพลังงาน ซึ่งพลังงานเหล่านั้นจะมาจากการที่คุณทานอาหารเข้าไป นอกจากนี้อาหารจะเข้าไปช่วยซ่อมแซมระบบการทำงานและอวัยวะภายในร่างกาย ไม่ต้องกลัวว่าอาหารจะทำให้หุ่นพังหรือน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ตราบใดที่คุณทำสองอย่างนี้ควบคู่กันอย่างถูกวิธี เชื่อเถอะว่าผลลัทธ์ที่ได้ออกมานั้นคุณจะรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่าง การสร้างสุขภาพให้แข็งแรงด้วยวิธีทางธรรมชติแบบนี้จะทำให้สุขภาพร่างกายของคุณแข็งแรงไปในระยะเวลาที่ยาวนาน

 

สนับสนุนโดย  วิธีอยู่ร่วมกับคนติดเชื้อเอดส์

อาการเอดส์ ระยะแรก

อาการโรคภูมิคุมกันบกพร่องของคนที่ได้รับเชื้อ HIV ไปสู่ร่างกาย จะมีสัญญาณเตือนหรืออาการโรคที่แสดงออกมาจนถึงคนรับเชื้อได้รู้สึกว่าตนเองเจ็บป่วยอาการทั่วๆไปจะคล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่ อย่างเช่น ลักษณะของการปวดเมื่อยล้ากล้ามเนิ้อ ซึม เป็นไข้ ร่างกายอ่อนล้า อาการพวกนี้มักเกิดขึ้นในช่วงเวลา 2-6 อาทิตย์หลังร่างกายได้รับเชื้อ HIV เข้าไปในร่างกายของผู้ได้รับเชื้อในระยะเริ่มต้นนี้สามารถส่งต่อเชื้อให้คนอื่นๆได้แล้ว

เพราะว่าร่างกายผลิตเชื้อไวรัสออกมาเยอะมากๆทั้งยังในเลือดแล้วก็ในสารคัดเลือกหลั่งต่างๆอย่างไรก็ตามอาการป่วยไข้ที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้จะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆเพียงแค่นั้นแล้วก็จะหายไป ไม่มีอาการอีกเลยเป็นปีๆหรือสำหรับบางบุคคล บางทีอาจเป็นๆหายๆเป็นช่วงๆโดยด้านล่างเป็นกลุ่มลักษณะของคนที่ได้รับเชื้อซึ่งมักออกอาการของโรคออกมา

อาการที่ 1 เป็นไข้ หนาวสั่น อาการนี้จะปรากฎหลังร่างกายได้รับเชื้อ 2-4 อาทิตย์ แล้วจะค่อยๆบรรเทาลง

อาการที่ 2 ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ

อาการที่ 3 ต่อมน้ำเหลืองบวม ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ ลำคอ รักแร้หรือขาหนีบ

อาการที่ 4 เมื่อยตามตัว ไม่มีแรง เมื่อยล้าง่ายยิ่งกว่าปกติ

อาการที่ 5 เป็นผื่น มีรอยช้ำแล้วก็อักเสบบนผิวหนัง โดยผื่นจะขึ้นเป็นหย่อมๆมีรอยช้ำเป็นจุดบนผิวหนัง รอยจ้ำเลือด โดยผื่นจะลุกลามขยายตัวเป็นวงกว้างและหลังจากนั้นก็ค่อยๆหายไป

อาการที่ 6 อาเจียนคลื่นไส้ มักเป็นร่วมกับอาการวิงเวียนศีรษะ

อาการที่ 7 น้ำหนักน้อยลง ถ่ายหนัก อุจจาระร่วง น้ำหนักลดในระยะเวลาอันรวดเร็วอย่างผิดวิสัย

อาการที่ 8 ไอแบบแห้งๆเรื้อรังติดต่อเป็นเวลานาน อาจมีอาการหายใจลำบาก หอบ อ่อนเพลียร่วมด้วย

อาการที่ 9 สมาธิสั้น กระวนกระวาย ขี้กังวลและก็อารมณ์เสียง่าย ความจำสั้นเยอะขึ้นเรื่อยๆ

อาการที่ 10 เหงื่อออกมากไม่ดีเหมือนปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลากลางคืน

อาการที่ 11 เล็บมีรูปร่างแล้วก็สีเปลี่ยนไป เป็นต้นว่า บิดโค้งงอ แยกชั้น ไม่มันเงา

อาการที่ 12 ชาตามนิ้วมือและก็นิ้วเท้า หมดแรง ไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ตามต้องการ

โดยปกติ เมื่อได้รับเชื้อ HIV เข้าไป เชื้อนี้จะเข้าไปแฝงตัวภายในร่างกายรวมทั้งค่อยๆออกอาการออกมาให้มีความคิดเห็นว่า ร่างกายติดเชื้อโรคแล้วโดยถ้าหากพบว่ามีลักษณะอาการที่ได้กล่าวผ่านไปแล้วก่อนหน้านี้ ให้รีบเข้ารับการตรวจ HIV เพื่อทดลองหาเชื้อไวรัส เพราะเหตุว่าการได้รับการดูแลและรักษาที่ทันท่วงทีจะเป็นการป้องกันคนรอบข้างของผู้ได้รับเชื้อซึ่งมันก็คือผู้ที่คนรับเชื้อรักนั่นเองและก็ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็เพื่อตัวของผู้ได้รับเชื้อเอง จะสามารถเข้ารับขั้นตอนการรักษาที่ถูกต้องรวมทั้งทันเวลา

 

สนับสนุนเรื่องราวดีๆจาก  ชุดตรวจเอดส์ ซื้อที่ไหน

ใครบ้างที่จะได้รับผลกระทบของภาวะฝุ่นละออง?

ปัจจุบันฝุ่นละอองพิษที่เพิ่มสูงมากขึ้นในจังหวัดกรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้คำศัพท์ที่พวกเราไม่คุ้นเคยกันมีชื่อเสียงและสนใจขึ้นมา ตัวอย่างเช่น มลพิษที่เกิดจากฝุ่นทางอากาศ อนุภาค ละอองฝุ่น หน้ากาก N95 และก็ดรรชนีคุณภาพอากาศ (particle pollution, particulate matter, N95 และ AQI) รวมทั้งทำให้ผู้คนตื่นตัวเรื่องอันตรายจากมลภาวะกลางอากาศมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ต่างพากันเป็นห่วงถึงผลพวงของมลภาวะดังกล่าวที่จะมีผลต่อร่างกายของมนุษย์
ใครบ้างที่จะได้รับผลกระทบของภาวะฝุ่นละออง?

– เด็กอยู่ในกลุ่มที่มีภาวะเสี่ยงสูงด้วยเหตุหลายประการ :โดยมากแล้วเด็กมักใช้เวลาอยู่ที่โล่งแจ้งเพื่อเล่นกีฬา ทำกิจกรรมนอกบ้าน ยิ่งอายุน้อยเท่าไร การเสี่ยงยิ่งมากเพิ่มขึ้น ปอดและระบบภูมิต้านทานของเด็กยังอยู่ในระยะที่กำลังเจริญพัฒนาแต่ไม่เท่าในผู้ใหญ่ การพบเจอกับมลภาวะกลางอากาศจะจำกัดการเติบโตของปอดในเด็ก นอกจากนี้ เด็กๆ ยังมีอัตราที่จะเป็นโรคหอบหืดรวมทั้งโรคระบบทางเดินหายใจที่ร้ายแรงมากกว่า ซึ่งโรคกลุ่มนี้กำเริบขึ้นได้ง่ายอย่างไม่ยากเย็นเมื่อระดับมลภาวะสูงขึ้น

– หญิงท้อง หญิงมีครรภ์ การพบเจอกับมลภาวะกลางอากาศจากฝุ่นระหว่างมีครรภ์มีความเชื่อมโยงกันกับการคลอดก่อนที่จะครบกำหนด น้ำหนักตัวทารกแรกคลอดต่ำ ความเสี่ยงที่จะมีการแท้งลูกรวมทั้งอัตราการตายของเด็กทารกยิ่งมากขึ้น

– คนชรา จำเป็นต้องพบเจอกับการเสี่ยงมากขึ้น เมื่อพบกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมลภาวะ เพราะระบบภูมิต้านทานของคนสูงอายุจะอ่อนแอลง และร่างกายมีการตอบสนองลดลง ภูมิต้านทานที่จะต่อสู้กับมลภาวะกลางอากาศก็ลดลง นอกเหนือจากนี้ คนแก่ยังมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะมีลักษณะเกี่ยวกับโรคหัวใจหรือระบบทางเดินหายใจที่ยังมิได้รับการวิเคราะห์ซึ่งสามารถกำเริบขึ้นได้เพราะมลภาวะกลางอากาศ

– คนที่เป็นโรคปอดหรือโรคหัวใจ ได้แก่ โรคเส้นเลือดหัวใจ สภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหอบหืด โรคถุงลมในปอดโป่งพอง โรคปอดอุดกันเรื้อรัง มีการเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหตุว่าอนุภาคฝุ่นละอองสามารถทำให้สถานการณ์โรคที่มีอยู่กำเริบขึ้นได้

คุณสามารถลดความอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับคุณได้ โดยการเฝ้าสำรวจระดับมลภาวะแบบเรียลไทม์และก็การคาดการณ์ดรรชนีคุณภาพอากาศ ซึ่งมีพร้อมให้เราสามารถติดตามแบบออนไลน์ได้ผ่านทาสมาร์ทโฟนแอพ ที่มีชื่อว่า Asia Air Quality (Android), Global Air Quality (Android) และ Air Quality Index (iOS)

วิธีการใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตา

วิธีการใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้อง
ในทางที่ดีที่สุดของการใช้น้ำตาเทียม คือ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับฟังคำแนะนำในการใช้งาน และอ่านข้อควรระวังในการใช้ แต่อย่างไรก็ตามการใช้งานน้ำตาเทียมก็มีวิธีปฏิบัติที่ปลอดภัยอยู่ ดังต่อไปนี้
1. ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยิบน้ำตาเทียมมาใช้ เพื่อป้องกันเชื้อโรคไปสู่ดวงตา และปะปนในบรรจุภัณฑ์น้ำตาเทียม

2. เงยหน้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ถนัด จากนั้นดึงเปลือกลงเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับหยอดน้ำตาเทียม

3. หากเป็นชนิดขวด หรือชนิดหลอดยาขี้ผึ้งแบบป้าย ควรให้ปลายหลอดยาป้าย หรือปลายขวดน้ำตาเทียมห่างจากดวงตาพอประมาณ

4. ค่อย ๆ หยดลงไป โดยทั่วไปใช้ประมาณ 1 หยด ระหว่างที่หยดให้เหลือบตามองบน

5. หลังจากหยดน้ำตาเทียมให้หลับตาไว้ประมาณ 1-2 นาที ไม่หรี่ตาหรือกระพริบตาเพื่อไม่ให้น้ำตาเทียมไหลออกจากตาเร็วเกินไป

6. เช็ดน้ำตาเทียมส่วนที่ไหลออกด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด อย่าใช้มือขยี้ดวงตา เพราะจะทำให้ตาอักเสบและอาจกระทบกระเทือน

7. ควรระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมสัมผัสกับดวงตา ผิวหน้า หรือส่วนใดของร่างกาย เพราะอาจทำให้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดการติดเชื้อได้

ในปัจจุบันมีแบรนด์ผลิตน้ำตาเทียมออกมาวางจำหน่ายทั้งตาท้องตลาด หรือห้างมากมาย ให้เลือกใช้เลือกซื้อกัน ซึ่งหากผู้ใช้เคยมีประวัติอาการแพ้น้ำตาเทียม มีความผิดปกติ เช่น น้ำตาไหล ตาแดง คันตา ตามัว หรือเคืองตา ปวดตา ควรหลีกเลี่ยง หรือหยุดใช้ทันทีและรีบพบจักษุแพทย์

น้ำตาเทียมแบบไหนจึงเหมาะสมกับผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์
สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ แนะควรใช้
– ชนิดใช้ได้ 1 วัน แบบไม่มีสารกันเสียที่เป็นกระเปราะเล็ก
หากมีการใช้ยาหยอดตาอื่น ๆ แล้วจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียม ควรเว้นให้ห่างกันประมาณ 5-10 นาที เพื่อประสิทธิภาพของยา
สำคัญที่สุดคือ อะไรก็ตามที่หมดอายุแล้วไม่ควรใช้ต่อ ควรทิ้งทันที นำตาเทียมก็เช่นกัน การเก็บรักษาน้ำตาเทียมควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ไม่อยู่ในที่แสงแดดจัด และไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น

วิธีป้องกันไขมันพอกตับและโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับตับ

การดูแลอัวยะภายในร่างกายของเรานั้นจำเป็นและสำคัญมาก

ซึ่งอวัยวะที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆนั้นก็คือตับของเรานั่นเอง เพราะนั้นคืออวัยวะที่เราไม่ควรมองข้ามมากที่สุด และวันนี้เรามีเคล็ดลับในการดูแลตับและโรคไขมันพอกตับให้อยู่กับเราได้นานๆมาดูกันว่ามีวิธีไหนกันบ้าง

สิ่งแรกที่สำคัญที่ควรคำนึงถึงนั้นก็คือ การที่เราอั้นปัสสวะ การอั้นปัสสวะเป็นปัจจัยที่เสี่ยง เนื่องจากตับของมนุษย์ทำหน้าที่ด้วยการกำจัดของเสียให้กับร่างกายของเรา ซึ่งมันเกิดจากการที่เราทานอาหารหรือทานสิ่งต่างๆเข้าร่างกาย เช่น อาหารที่มีสารพิษติดมา ยา แอลกอฮอล์ กาแฟ เป็นต้น

หากสารพิษที่กล่าวมานั้นเมื่อมีการผ่านกระบวนการเข้าไปสู่ตับของเราแล้ว ตับของเราจะทำหน้าที่ด้วยการทำลายสารพิษเหล่านั้น แต่หากว่าเรามีการอั้นปัสสาวะเอาไว้ด้วยจะส่งผลให้ตับของเราทำงานที่หนักขึ้นไปอีกเท่าตัว

การทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์

สำหรับการทานอาหารและเครื่องดื่มเราควรทานอาหารที่ร่างกายต้องการ และเป็นอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย โดยเราสามารถรู้อยู่แล้วว่าอะไรที่ดีแก่ร่างกาย และเราก็ได้เรียนมาตั้งแต่เด็กเรื่องของอาหารหลัก 5 หมู่ ดังนั้นเราควรเลือกทานให้เหมาะสมแก่การต้องการของร่างกายของเรานั่นเอง

การออกกำลังกาย

สำหรับการออกกำลังกายเราย่อมรู้กันดีว่าการออกกำลังกายเป็นการทำให้ร่างกายของเราได้แข็งแรง และที่สำคัญเป็นการเผาพลาญไขมันในส่วนที่เราไม่ควรเก็บไว้อีกด้วย โดยแพทย์เฉพาะทางหรือนักวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขามีความคิดเห็นและพูดเป็นอย่างเดียวกันว่า ความอ้วนของคนเรากับตับนั้นมีส่วนที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งการที่เรามีน้ำหนักมากนั้นจะส่งผลให้ตับของเราทำงานหนักเช่นกัน

น้ำตาลในเลือดควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

ซึ่งเราสามารถตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดได้บ่อยๆตามความเหมาะสม และควรรักษาระน้ำในเลือดให้อยู่ในปริมาณที่เกณฑ์ที่เหมาะสม

การดื่มน้ำ

ในวันๆนึงเราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว เพื่อเป็นการช่วยให้ตับของเราได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นการช่วยในการปรับระดับในเลือดให้เป็นปกติอีกด้วยนะ

การทานยา

สำหรับท่านที่ป่วยและมีการซื้อยามาทานเองซึ่งเป็นการช่วยในด้านของการประหยัดทั้งเวลาและเงินนั้น มันก็ถือว่าดีแต่ก็ไม่ดีไปทั้งหมดเพราะการทานยาบางชนิดก็สามารถทำร้ายแก่ตับของเราได้ ทางที่ดีในการทานยาหากมีอาการป่วยมากหรือป่วยบ่อยๆควรไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์จ่ายยาจะดีกว่า เพื่อเป็นการป้องกันและช่วยในด้านอื่นๆของภายในร่างกายไม่ให้โดยทำร้ายแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย

ออกกำลังกายแค่ไหนถึงจะดีต่อร่างกาย

ออกกำลังกายแค่ไหนถึงจะดีต่อร่างกาย
จริงๆ แล้วการออกกำลังกาย คือ การสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ป้องกันหรือทำให้ห่างไกลจากโรค ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกออกกำลังกายแบบไหน ออกมากออกน้อย สิ่งที่ได้ก็คือสุขภาพของคุณเช่นกัน ทุกคนนั้นมีพื้นฐานของร่างกายที่แตกต่างกัน ทำให้การบอกให้ชัดเจนหรือจัดประเภทการออกกำลังกายให้เหมาะสมและครอบคลุมสำหรับทุกคนนั้นทำได้ยาก ทุกคนมีความเหมาะสมต่อวิธีออกกำลังกายและความหนักเบาที่ต่างกัน ดังนั้น เราควรเลือกออกแบบที่เหมาะสมกับเรา และสะดวกสบายต่อเราด้วยเช่นกัน เราไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงเหมือนคนอื่น ๆ เพราะคนอื่นๆ ไม่ได้มีร่างกายเหมือนกับคนนั้นที่คุณพูดถึง เช่น หากคุณเป็นคนที่กำลังเริ่มออกกำลังกาย ซึ่งยังไม่เคยออกกำลังกายเป็นประจำมาก่อน การวิ่งเพียง 1-2 นาทีก็อาจทำให้คุณปวดขาไปทั้งวันได้ การเลือกวิธีออกกำลังกายที่เราชอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีส่วนช่วยทำให้เราออกกำลังกายได้นานขึ้น มีความสุขไปกับการออกกำลังกาย จากนั้นคุณจึงค่อยๆ ลองเพิ่มความแอดวานซ์ให้กับการออกกำลังกายทีละนิด ในระดับที่เราพอทำได้ ทั้งนี้ระดับเบาที่สุด เช่น วิ่งบนลู่วิ่งในความเร็วระดับ 4 ที่ 3 นาที จากนั้นหากทำได้โดยไม่เหนื่อยเกินไป ก็ค่อย ๆ เพิ่มระดับความเร็ว หรือเพิ่มความยาวนานในการวิ่งมากขึ้นทีละนิด

รวมถึงการออกกำลังกายแบบยกน้ำหนัก ควรค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนัก รวมถึงจำนวนครั้งในการยกอย่างช้า ๆ เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บอีกด้วย

ดังนั้น การออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน แต่ควรเลือกทำกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายได้ใช้แรงจนรู้สึกเมื่อย หรือเหนื่อยหอบเบา ๆ ทุกวัน วันละเล็กละน้อย ก็เหมือนช่วยให้ร่างกายได้ออกกำลังกายเบา ๆ ทุกวันโดยไม่ต้องเข้าฟิตเนส แต่กระนั้นการออกกำลังกายอย่างเต็มรูปแบบก็ยังสำคัญอยู่ ควร “ตั้งใจ” ออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยให้มีร่างกายที่แข็งแรง และช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกด้วย